วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ม่อนแจ่ม

#ม่อนแจ่ม


ม่อนแจ่มจะสวยตอนหน้าหนาว
แต่เขาก็บอกว่า ม่อนแจ่มหน้าฝนก็สวยเหมือนกัน


ก่อนมาที่นี่โดนรีวิวมาเลยจ้ะ
✿ ดอกเวอร์บีน่าม่วงมาก  แจ่มมาก




พื้นโลกด้านล่างร้อนมาก แต่พอขึ้นมานี่เย็นเลย
อากาศแจ่มมาก



แต่

ดอกไม้ ✿ ไม่แจ่มเลย

+▂+   

เหมือนก่อนหน้านี้เวอร์บีน่ามันม่วงและแจ่มมาก
แต่ตอนนี้ ดอกไม้ส่วนใหญ่เน่าไปแล้ว 







ที่เลวร้ายสุดคือ 

วันนี้คนงานกำลังตัดต้นเวอร์บีน่าทิ้งเลย
ใครมาหลังวันที่ 12 สิงหาคมนี้ 

ขอแสดงความเสียใจด้วย  ╮(╯_╰)╭  




คงต้องรอเวอร์บีน่ารอบหน้าแล้ว 
แต่น่าจะแจ่มกว่านี้


PS. รูปแรกสุดนั่นคือตอแหลสุด ปรับสีม่วงสุดให้สาแก่ใจ
╮(╯▽╰)╭ 

วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เสียมราฐ 2012


ช่วงนี้ครบรอบ 3 ปีแห่งการไปเยือนเสียมราฐพอดี
ก็เลยขอเขียนบล็อกย้อนรำลึกถึงตอนเที่ยวเสียมราฐสมัยโน้นเสียหน่อย

*ภาพในบล็อกได้มาจากเพื่อนสะไม สหายผู้ร่วมทริปครั้งนี้

การไปเยือนเสียมราฐ หรือจะเรียกว่าเสียมเรียบก็ได้

สมัยเมื่อ 3-4 ปีก่อนนู่นนะ (ปี 2012) ถ้าอยากประหยัดเงินต้องนั่งรถไปลงโรงเกลือ


แล้วต่อรถฟรีจากด่านไปท่ารถปอยเปต แล้วก็นั่งรถบัสหรือเหมาแท๊กซี่ไป



ตอนนี้สบายแล้ว มีแอร์เอเชียบินลง ราคาตอนโปรฯ ก็จับต้องได้
อยากจิสอยตั๋วไปอีกรอบจริงๆ เลยน้า  (~ ̄▽ ̄)  

โชคดีรอบนั้นเราได้อาศัยติดรถทั้งขาไป-กลับ 
กับครอบครัวพี่คนไทยที่เหมารถจะเที่ยวเสียมเรียบพอดี
ค่ารถเลยไม่ต้องเสีย เย้!

ออกจากกรุงเทพฯ เช้าๆ กว่าจะมาถึงเสียมราฐก็เย็นพอดี

มาหาข้าวกินแถว pub street มีร้านรวงเยอะแยะไม่ต้องกลัวอดตาย



ช่วงที่เราไปคือวันที่ 3-5 สิงหาคม 2012
เที่ยววันเดียว เดินทาง 2 วัน 



ตอนเย็นวันแรกก็ให้ที่พักติดต่อตุ๊กๆ ไว้ให้
หรือจะเดินหาตุ๊กๆ ตอนเย็นไว้แล้วนัดให้มารับก็ได้
หรือจะเดินหาตอนเช้าก็ได้เหมือนกัน

ตุ๊กๆ ที่เสียมราฐ ออกเสียงเรียกคล้ายๆ คำว่า ละเมาะโมโต
แต่ฝรั่งเรียกตุ๊กๆ ตามแบบตุ๊กๆ พี่ไทย
ดังนั้นคนที่นี่ส่วนใหญ่ก็เรียกตุ๊กๆ แหละ


ตอนเช้าเริ่มเดินทาง 8 โมงไปซื้อตั๋ว 1 วันราคา 20$ 
ลืมบอกไปว่า ที่เสียมราฐส่วนใหญ่จะใช้เงินสกุลดอลล่า กับเงินเรียล (เงินบาทบางที่ก็รับ)

แม้จะมีการรณรงค์ให้ใช้เงินสกุลเรียล แต่ก็ไม่ค่อยนิยมนัก

บางทีจ่ายเป็นดอลล่าห์จะได้ทอนเป็นเงินเรียลบ้าง

ตั๋วของพวกเรา 

หลังจากซื้อตั๋วเสร็จก็นั่งตุ๊กๆ เข้าโซนปราสาทได้เลย
ที่แรก 

| ANGKOR WAT|

อังกอร์วัด หรือ ปราสาทนครวัด



ปราสาทนครวัดหันหน้าไปทางทิศตะวันตก 
สร้างเป็นสุสานไม่ใช่ปราสาทสำหรับอยู่อาศัย


ตอนไปเที่ยวมีแต่คนทักว่าเป็นคัมโบเดี่ยนใช่มั้ย

เราเข้าใจว่า เขาชมว่าเราสวยเหมือนอัปสรา


อันนี้มีอัปสราให้ถ่ายรูปด้วย เสียตังค์ด้วยนะจ๊ะ


จบจากทัวร์นครวัด ใช้เวลาร่วมครึ่งเช้า
ก็นั่งตุ๊กๆ ไปต่อที่ 

| ANGKOR THOM|

ก่อนไปถึงนครธมก็จะเจอกับประตูทางเข้าทางทิศใต้
ที่มีรูปแกะสลักพิธีกวนเกษียรสมุทรอยู่




ในเมื่อนครวัดเป็นสุสาน นครธมจึงเป็นเมืองหลวง มีปราสาทและที่อยู่อาศัย

แต่สิ่งก่อสร้างที่เป็นตัววังจริงๆ ไม่เหลือแล้วล่ะ เพราะสร้างจากไม้เป็นส่วนใหญ่
เลยเหลือแต่สิ่งก่อสร้างจำพวกหิน นั่นคือเทวาลัยต่างๆ

|ปราสาทบายน|



จุดเด่นของที่นี่เลยคือปราสาทที่มีรูปสลักหน้าคนอยู่เต็มไปหมด
ไม่ขอฟันธงว่าเป็นหน้าใครนะ เราไม่แน่ใจ

ขอคัดคำพูดของปีแอร์  ผู้ค้นพบปราสาทเป็นคนแรกๆ ว่า

"ข้าพเจ้าแหงนหน้าขึ้นไปยังปราสาทที่มีต้นไม้ปกคลุม 

ซึ่งทำให้ตัวเองรู้สึกเหมือนคนแคระ

และทันทีทันใดเลือดในตัวข้าพเจ้าก็เกิดแข็งเย็นขึ้นมา 

เมื่อมองเห็นรอยยิ้มขนาดมหึมาที่กำลังมองลงมา

แล้วก็รอยยิ้มอีกด้านหนึ่งเหนือกำแพงอีกด้านหนึ่ง

แล้วก็รอยยิ้มที่สามแล้วก็รอยยิ้มที่ห้า แล้วก็ที่สิบ ปรากฏจากทั่วสารทิศ

ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนมีตาคอยจ้องมองอยู่ทุกทิศทาง

ความรู้สึกของนายปีแอร์เป็นอย่างไร คงต้องมาสัมผัสกันเอง


เดินเล่นเสพประวัติศาสตร์แถวนี้เสร็จ
ถ้ามีเวลาก็ให้ตุ๊กๆ วนไปปราสาทอื่นๆ อีกก็ได้
มีปราสาทมากมายกระจายตัวอยู่ที่นี่

แต่ที่ไม่อยากให้พลาดเลยคือ ปราสาทตาพรหม

หรือปราสาททูมไรเดอร์นั่นแหละ



ภาพปราสาทที่ถูกต้นสะปงต้นใหญ่เกี่ยวพัน น่าดูไม่ใช่เล่น

ที่ไม่ตัดต้นไม้ออกไม่ใช่เพราะต้องการให้ขลัง



แต่เป็นเพราะว่ารากต้นสะปงยึดเกาะก้อนหินไว้จนแทบเป็นหนึ่งเดียวกัน
ถ้าตัดต้นสะปงออก ก้อนหินก็จะพังทลายลง ประมาณนี้แหละ


หลายคนรู้จักที่นี่เพราะชื่อเสียงว่า เป็นปราสาทที่มีต้นสะปงใหญ่เกาะไว้

อีกหลายคนรู้จักหนังดังจากทูมไรเดอร์ 

ไม่ว่าจะรู้จักไหนก็ตามก็น่ามาให้เห็นกับตาทั้งนั้นแหละ

ขากลับถ้าใครอยากดูพระอาทิตย์ตก มีจุดให้ดูอีกหลายแห่ง
ถ้าคิดไม่ออก ถามพี่ตุ๊กๆ ดูก็ได้

ตอนเย็นก็กินข้าว หาของฝากแถวผับสตรีท 
รุ่งขึ้นก็เลือกทางกลับตามกำลังทรัพย์
เดี๋ยวนี้มีบินตรงแบบโลคอส หรือจะนั่งรถทัวร์ของ ขสมก.ก็ได้ สะดวกดีเหมือนกัน

จบทริปปราสาท ทริปนี้หมดไปแค่ราวๆ 100 $