วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ไต้หวัน.. ในวันที่ฝนตก ฟ้าครึ้มและซุปเปอร์ไต้ฝุ่น 3

Have you read part 2 yet:>> Click

Taiwan Day 04

เช้านี้ตื่นขึ้นมาและพบว่าอากาศแจ่มใส
ไม่มีร่องรอยฟ้าครึ้ม ฟ้าฝน พายุเมื่อวานเลย นอกจากเศษซากกิ่งไม้ เศษร่มจากพายุเมื่อวาน

วันนี้ยังถูกประกาศเป็นวันหยุดอยู่ 
แต่รถไฟ TRA และรถไฟความเร็วสูงจะเริ่มทำการตอนบ่าย 2
ส่วนรถไฟใต้ดินในไทเป เปิดบริการแล้ว

เช้านี้เริ่มด้วยการไปไหว้พระ(ล้างซวย) ที่วัดหลงซาน
ไปลงที่ MRT Longshan Temple

พอเดินขึ้นจาก MRT 
นอกจากพวกเศษกิ่งไม้อันเป็นประจักษ์พยานจากพายุเมื่อวานแล้ว 
นอกนั้นก็ดูเหมือนว่าทุกคนก็ใช้ชีวิตปกติดี




แต่ที่ไม่ปกติคือ วัดหลงซาน ปิดคร่าาาาาาา

 หลายๆ คนก็ไม่คาดคิดว่าที่นี่จะปิดไง เจอแบบนี้ก็ผิดหวังกันถ้วนหน้า


อากง อาม่าและเราด้วย เลยไหว้พระอยู่หน้าวัดแทน

ออกจากวัดหลงซาน เลยว่าจะไป Art Part 
เป็นสวนสาธารณะที่ติดตั้งผลงานศิลปะไว้
พอไปถึงก็เห็นว่า จนท.กำลังเก็บกวาดผลงานจากพายุเมื่อวานอยู่

ก็รู้สึกประทับใจในการทำงานของเขาดีแฮะ ทำงานรวดเร็วดี

เลยไปต่อกันที่ MOCA, ห้องสมุดเป่ยโถว และน้ำพุร้อนเป่ยโถว

ซึ่งทุกที่ปิดจ้า
































เพื่อนถึงกับยิ้มไม่ออกล่ะ.. โอ๊ย
ตัวเราเคยมาแล้วไงเลยไม่เท่าไหร่ สงสารเพื่อน ฮ่า...

ยังดีที่ร้านราเมงที่เป่ยโถวไม่ปิด เลยได้กินราเมงอร่อยๆ อยู่ 
พอกินอิ่มก็อารมณ์ดี 

นั่ง MRT ย้อนไปถ่ายรูปกับตู้ไปรษณีย์เอียงที่โดนพายุเซาท์แลนเดอร์ลูกก่อนหน้านี้พัดเสียเอียงเลย

กลายเป็นแลนด์มาร์กอันใหม่แห่งไทเป



จากนั้นนั่ง MRT ต่อไปที่ Huashan 1914 Creative Park
ที่นี่เป็นพื้นที่ที่ถูกบูรณะจากโรงไวน์เก่า กลายเป็นร้านค้าและที่จัดแสดงผลงานด้านศิลปะ


















เดินจาก MRT Zhongxiao Xingsheng มาอีก 1 หอบ 
(อ่านรีวิวมาว่าเดินไปนิดเดียว ไม่จริงเลย)


ร้านบางส่วนก็เปิดแล้ว แต่เปิดไม่หมด
น่าเสียดายเล็กๆ

ได้แวะร้าน Never Ending Story ที่มีผลงานของจิมมี่ เลียว ขายและเป็นร้านอาหารด้วย


ของที่ระลึกไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ก็ได้ติดไม้ติดมือมานิดนึง

จากนั้นก็เดินซื้อนู่น ซื้อนี่ ซื้อของฝาก
ไปกินบะหมี่อาจงที่ซีเหมินด้วย อร่อยเหมือนเดิม

ที่อยู่ในมือนั่นคือสั่งชามเล็กนะ แต่ว่าก็ใหญ่อยู่ดี
ท้องอิ่ม กระเป๋าตังค์เบาหวิวแล้วก็กลับที่พัก

กลับมาเตรียมจัดกระเป๋ากลับเมืองไทยวันพรุ่งนี้

จะว่าไปวันนี้ได้เที่ยวหลายที่นะ แต่แบบชะโงกทัวร์ทั้งนั้นเลย


TAIWAN DAY 05

วันนี้กลับเมืองไทย 2 ทุ่ม มีเวลาเที่ยวได้ทั้งวัน
เริ่มจากเช็กเอาท์แล้วฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อน 
ไปอนุสรณ์สถาน ดร.ซุน ยัด เซน










จากที่นี่เห็นไทเป 101 ด้วย
แต่ตอนเช้าแดดแรงมาก
ถ่ายรูปย้อนแสง ไม่สวยเสียเลย

รูปนี้ใส่ผ้าใบที่ซื้อมาใหม่ 
เพราะผ้าใบเก่าโดนพายุวันก่อนทำพิษ แฉะมาก ใส่ไม่ได้

และวันนี้เป็นวันที่อากาศดีที่สุดใน 5 วันที่ผ่านมา
(แต่ดันเป็นวันสุดท้ายของทริปเสียนี่)

















หน้าอนุสรณ์สถาน ดร.ซุน ยัด เซ็น มีร้านชื่อ ARANZI BISTRO
เป็นร้านที่มีคาแรกเตอร์เจ้าตัว Aranzi 
ซึ่งเราก็ไม่รู้จักหรอก แต่เจ้าตัวนี้มันน่ารักดี

เปิด 11 โมงตรง เราไปถึง 10.30 น. ต้องรอนิดนึง




ไปประเดิมเป็นลูกค้าโต๊ะแรกของร้านเลย 
พนง.ร้านน่ารักมาก 
เราสั่งพิซซ่า แป้งบางกรอบ อร่อยอ่า......








1 ถาด พิซซ่าฮาวายเอี้ยน 
สั่งมาแบ่งกันกิน 2 คน

จะสั่งน้ำแข็งไสด้วย ดันหมด

จะกินเค้กต่อ กลัวกินไม่หมด

ที่จริงถาดแค่นี้ก็อิ่มกันแล้วล่ะ




ราคาก็ไม่ได้แพง หาร 2 ก็ตกคนละ 300 NTD 

เท่ากับราคาอาหารปกติของไต้หวัน 1 มื้อ










กินอิ่ม ไปแก้มือกันที่วัดหลงซานอีกรอบ

วันนี้วัดไม่ปิด เย้














ก่อนจะกลับไปโรงแรม เอากระเป๋า เดินทางไปสนามบินรอกลับเมืองไทย

สรุปการเดินทาง 5 วันในไทเป
รู้สึกยังไม่จุใจเลย เพราะเจอพายุเข้าเสียก่อน 
ไปที่ไหน ที่นั่นก็ปิด
อยากออกไปนอกเมืองบ้าง ก็ไปไม่ได้ เพราะติดพายุ

รู้สึกเหมือนต้องกลับมาแก้มือ ฮ่าๆ

o┽┊﹎.εїз︷✿‧:﹎。❤‧:❉:‧ .。.:*・❀●•♪.。‧:❉:‧



✿ TAIWAN ON A BUDGET 

ปิดท้ายด้วยสรุปค่าใช้จ่ายหลักๆ

ตั๋วเครื่องบิน v air & โหลดกระเป๋า กรุงเทพ-ไทเป = 7,699 THB
ค่าที่พัก 4 คืน 3,037 THB
ประกันการเดินทาง Cigna 239 THB
ค่าวีซ่า (ผ่านเอเจนซี่) 2,200 THB
ค่าอาหาร 600 THB/DAY
ค่าเดินทาง 1,000 THB
ส่วนเรื่องช๊อปปิ้ง Unlimited
























วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ไต้หวัน.. ในวันที่ฝนตก ฟ้าครึ้มและซุปเปอร์ไต้ฝุ่น 2

Have You Read part 1 YET:>>click

Taiwan, Day 03

ทีแรก วันนี้จะไปเที่ยวนอกเมืองอย่างซัน มูน เลค หรือว่าไท่ลู่เก๋อ

แต่ว่าก่อนนอนลองเข้าไปเช็คข่าวดู เจอข่าวว่าอาจจะมีไต้ฝุ่นเข้ามา

ไต้ฝุ่นอาจจะขึ้นเกาะหรือไม่ก็ได้ 

แต่ที่แน่ๆพรุ่งนี้ฝนตก เลยเปลี่ยนแผนเที่ยวอยู่ในไทเปต่อ


พอออกมาจากที่พัก สิ่งที่เจอคืออากาศเย็นๆ และฟ้าครึ้ม มีลมพัดเป็นระยะ


นั่งรถไฟใต้ดินไปถ่ายรูปไทเป 101 ลงสถานี Taipei 101 เลยง่ายดี


จุดที่ถ่ายรูปตึกไทเป 101 สวยที่นึงคือ หมู่บ้านทหาร Xinyi Assembly Hall












แต่เดิมที่นี่เป็นหมู่บ้านที่รัฐบาลสร้างไว้ให้ทหารผ่านศึกอาศัย

บ้านก็จะเล็กๆ เรียบๆ  
เพื่อนถึงกลับบอกว่า นี่บ้านคนจริงรึเนี่ย..





วันเสาร์-อาทิตย์ มีตลาดนัดด้วย 





และปิดวันจันทร์


และวันที่เรามาวันนี้คือวันจันทร์ ! !!!!!!!!



















โอ๊ย..เลยไม่มีอะไรสักสิ่ง เข้าไปดูด้านในก็ไม่ได้
และที่สำคัญ ที่นี่มีเบเกิ้ลที่เขาบอกว่าอร่อยมาก แต่ร้านมันปิดไง อดกิน 


พูดเลยว่าตลาดนัดปิด ไม่เสียใจเท่าไม่ได้กินเบเกิ้ล ฮือ π_π

แต่อย่างน้อยเราก็ถ่ายรูปได้สบายมาก คนไม่มากวนเลย ดี๊...ดี


























เดินเล่นได้สักพัก ฝนก็ตกลงมา 

ข่าวล่ามาว่าตอนนี้ไต้ฝุ่นจะเข้าเกาะไต้หวันแน่ๆ แล้ว
และขึ้นเกาะตอน 3 ทุ่ม 
ฝนก็หยุดๆ ตกๆ สลับกับลมเป็นระยะ

ที่หน้าตึกไทเป 101 มี Moon Bus ตัวละครจากหนังสือของจิมมี่ เลียว










แต่ปิด ...(อีกแล้ว)ขึ้นไปบนรถไม่ได้ 

เลยเดินถ่ายรูปรอบๆ แค่นั้นเอง
















จากนั้นก็เดินเข้าไปในตึก 101 ซึ่งด้านบนเป็นจุดชมวิว แต่
ว่าฝนตก เมฆครึ้มขนาดนี้เลยไม่ขึ้น
ด้านล่างเป็นห้าง แบรนด์เนมหรูหรา แบรนด์จ๋ามาก
เลยเดินข้ามถนนมาตึกตรงข้าม ตรงนี้เป็นสตรีทแบรนด์ทั่วไป เข้าถึงได้มากกว่า


จากนั้น ไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ Lao Dong

MRT ShuangLian exit 2 

เดินออกจากสถานีเลี้ยวซ้าย ข้ามถนนไปนิดเดียว เจอเลย







ที่นี่มีเมนูภาษาอังกฤษ พร้อมรูปภาพประกอบ

สั่งแบบสไปซี่มา คิดว่าไม่เผ็ด 
...ดันเผ็ดจ้า อา...

แถมก๋วยเตี๋ยวเนื้อชามใหญ่มาก
เส้นเยอะ แต่เนื้อนุ่มมาก อร่อยมากกกกก
ชามละ 220 NTD โดยประมาณ

เรากินไม่หมดจ้า 

แต่เพื่อนกินหมดจ้า ..ยอม









กินเสร็จ ก็พากันฝ่าพายุฝนไป carrefour ที่นั่นมีเอาท์เล็ทรองเท้า

ที่เห็นก็มี New balance, nike, adidas (มั้ง) และยี่ห้ออื่นๆ นอกจากรองเท้าด้วย

ราคาถูกจริง แต่ไกลไปหน่อย แบบธรรมดา ไม่ได้แฟชั่นอะไรมาก


แถมต้องเดินฝ่าฝนและลมไปด้วย





























สำหรับ new balance ราคาอยู่ที่คู่ละประมาณ 1300-1900 

ถ้าสวยๆ ก็มีราคา 2 พันอัพ
แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นรุ่นธรรมดา สีพื้นๆ




















ตอนกลับจากคาร์ฟูล โหย..ฝนกระหน่ำ ลมแรงมาก

นึกว่าจะกลับไม่ได้แล้ว ตอนนี้แหละที่พายุแรงมาก
กลัวว่าจะต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้กลางพายุที่ไทเป

มาถึงสถานี Ximen ตอน 6 โมงครึ่ง


เงียบสนิท.. ร้างรวงปิดหมดจ้า มีซากใบไม้ กิ่งไม้ และเศษร่มที่หักอยู่ตลอดทาง
โชคดีที่ร้านสะดวกซื้อหน้าที่พักยังไม่ปิด เลยไปเหมาอาหารสำหรับกินได้อีก 3 มื้อมาตุนไว้ก่อนเลย


|Dujuan, the Typhon|


ต้องขอเล่าเรื่องไต้ฝุ่น Dujuan หรือกุหลาบพันปีนี่นิดนึง 

เพราะเป็นครั้งแรกที่เคยเจอไต้ฝุ่นแบบนี้กับตัว
ถ้าตามข่าว (ถ้าผิดพลาดไปบ้างก็ขออภัย) คือไต้ฝุ่นลูกนี้เป็น ซุปเปอร์ไต้ฝุ่น 
มีความเร็วมากสุดในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา และกำลังแรงกว่าพายุเซาเดโลร์ที่เข้ามาถล่มไต้หวันลูกก่อน 
เจ้ากุหลาบพันปีลูกนี้ทำให้มีคนตาย 3 บาดเจ็บกว่า 200 ราย

ความโชคดีในความโชคร้ายของเราคือ กุหลาบลูกนี้พัดผ่านไต้หวันไปเร็วมาก 

จากที่คาดการณ์ว่า กว่าจะออกจากไต้หวันก็บ่าย 3 ของวันรุ่งขึ้น 
ปรากฏว่าพอสักตี 2-3 พายุก็สงบแล้ว

ทีนี้ประสบการณ์พายุในไต้หวันคือ คนไต้หวัน ชิลลลลลลมากกกกกกก

ทำให้ถ้าเราไม่ได้ตามข่าวมา เราก็จะคิดว่าเหมือนฝนตกฟ้าร้องธรรมดา
แต่ภายใต้ความชิลคือ เขาเตรียมพร้อมกันมาแล้ว
ร่มพร้อม เสื้อกันฝนพร้อม มีการประกาศเป็นวันหยุดแล้ว 2 วัน (คือวันนี้ที่พายุเข้าและวันพรุ่งนี้)
และในซุปเปอร์คือ คนกวาดของกินเตรียมพร้อมสำหรับน้ำไม่ไหล ไฟดับ ออกไปข้างนอกไม่ได้แล้ว

ส่วนเรื่องลม คือฝนกับลมจะมาเป็นช่วงๆ และจะค่อยๆ แรงขึ้น 

จนกางร่มไม่ได้ ซากร่มที่เกิดจากลมพัดหักนี่มีตลอดทาง
แรงสุดคือช่วง 6 โมงถึง 1 ทุ่ม ตอนจะกลับโรงแรมป้ายหน้าโรงแรมร่วงลงมา
ลมพัดจนเวลาเดินต้องก้มต่ำ แล้วเราก็ต้องหาจุดบังลมเป็นระยะ
รถพยาบาล รถดับเพลิง วิ่งวุ่นกันทั้งคืน
เราก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่กินอาหารที่ซื้อมา อาบน้ำ นอนเล่น
และหวังว่าพายุจะผ่านไปด้วยดี และรวดเร็ว
please continue reading>> part 3

วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ไต้หวัน..ในวันที่ฟ้าครึ้ม ฝนตกและซุปเปอร์ไต้ฝุ่น 1


ไต้หวันบัตเจ็ทแบบฮิปเตอร์



ในช่วงที่การรีวิวท่องเที่ยวแบบแข่งกันถูกกำลังเป็นกระแส
อิชั้นขอทวนกระแสบ้าง 



ด้วยการจัดตั๋วโลว์คอสไปไทเปเหนาะๆ เลย 7,700 บาท (นั่นคือเกือบราคาเต็มเลยนะ)
ปกติคนอื่นซื้อกันตอนโปรฯ ได้แค่ 2-3 พันเอง (¬_¬メ)




ไม่ได้อยากจะแนว แค่จะเดินทางแล้วแต่ตั๋วโปรฯ มันไม่ออกมาแค่นั้นเองแหละ ⊙△⊙ โถ...



รอบนี้บินกับน้องหมี v air เจ้าหมีตัวสีดำน่ารักดี
แค่เห็นโลโก้ก็เทใจให้สายการบินนี้ไปแล้ว

แอร์ก็แต่งตัวชิลๆ เสื้อยืด กางเกงยีนส์ 
กัปตันพูดไทยได้ด้วย น่ารัก  (。→‿←。) 


|DAY 01| 
|BKK        TPE|

เครื่องออกตี 1 ไปถึงสนามบินเถาหยวน 6 โมงเช้าพอดี
รอซื้อซิมการ์ดที่สนามบินตอน 8 โมง
กว่าจะออกจากสนามบินมาถึงที่พักก็ 11 โมงแล้ว 

(วิธีเดินทางออกจากสนามบินอ่านบล็อกเก่านะ   Have a good Taipei day01)

บ้านคุณป้าหลังนึงระหว่างทาง

|Hotel|

เรื่องที่พัก
เดี๋ยวนี้เริ่มรู้สึกว่าแก่แล้ว นอนห้องที่เสียงดังไม่ไหว ขอห้องส่วนตัวละกัน
แต่เรื่องห้องน้ำแชร์กันได้ ไม่มีปัญหา

เราพักที่ Inn Cube ตอบโจทย์ตรงนี้ 

อย่าไปผิดละ เราไปผิดมาแล้ว

Inn Cube มี 2 สาขา 
Inn Cube เฉยๆ ไม่มีห้อยท้ายคือ สาขา Taipei Main Station อยู่ติดสถานีเลย
ส่วน Inn Cube Ximen ต้องไปลงสถานี Ximen เดินไกลจากสถานีไปหน่อย 
    เราเรียกสาขานี้ว่า สาขาพี่กล้าม

    เพราะสต๊าฟผู้ชายเป็นพี่กล้ามทั้งนั้นเลยคร่าาาาา...

เราเลือกห้องที่ราคาถูกสุด (เพราะจ่ายค่าตั๋วมาเยอะแล้ว มาเซฟที่ค่าห้องแทน ฮ่าๆ) 
ห้องวันหยุดจะตกคืนละ 1400 NTD ส่วนวันธรรมดาราคาประมาณ 1100 NTD
ห้องแคบมากความกว้างคือสุดแขนกางออก
แต่ห้องพักสะอาด พนักงานดี เคาร์เตอร์เปิด 24 ชม.

แอบไปดูห้องอื่นมา กว้างกว่าห้องเราเยอะ


|CHIANG KAI SHEK MEMORIAL HALL|
        MRT: CKS Memorial hall

มากี่ครั้งก็ยังมาที่นี่ ขนาดมาซ้ำครั้งที่ 2 ก็ยังรู้สึกว่าที่นี่ยิ่งใหญ่มาก
มาเหอะ อยากให้มา...

แต่มาครั้งนี้แทบไม่เจอพระอาทิตย์เลย เมฆ หมอก ฝน และแรงสุดซุปเปอร์ไต้ฝุ่นมาเลยจ้ะ

อย่างวันนี้วันแรก ไม่ได้ตั้งใจจะฮิปเตอร์ แต่ฟ้าครึ้มทั้งวันแถมมีฝนตกเป็นช่วงๆ ด้วย 




|TAMSUI|MRT: TAMSUIตั้นสุ่ย: ที่นี่เพิ่งเคยมาครั้งแรก นั่ง MRT สายสีแดงมาสุดสาย ไกลมาก


เรียกได้ว่าเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวไทเป อากาศดีมาก
มาเดินเล่น ปั่นจักรยาน ทำกิจกรรมในครอบคร้ว
แถมมีตลาดนัดที่ใหญ่มาก ของกินก็เยอะ






ไอติมสตรอเบอรี่กับมะม่วงสังเคราะห์ เพื่อนบอกว่าอร่อยมาก มีรุ่นยาวพิเศษขายด้วยนะ



ปลาหมึกทอดและเห็ดทอดของป้าราคา 100 NTD 
ปลาหมึกทอดอร่อยดี แต่ถ้าได้น้ำจิ้มซีฟู้ดบ้านเรารับรองแจ่ม





















แต่ฝนตกลงมาอีกแล้วจ้า ก็เลยอยู่ได้ไม่นาน กลับก่อนนอนหลับพักผ่อน เตรียมพร้อมสำหรับพรุ่งนี้

|DAY 02|

|Houtong & Jiufen|

วันที่ 2 อากาศสบายๆ ไม่ร้อน แต่มีเมฆครึ้ม แดดไม่ออกเลย มีแววว่าฝนจะตก


วันนี้จะไปหมู่บ้านแมวโฮวโต้ง (Houtong) กับ หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น (Jiufen)

คราวที่แล้วไปจิ่วเฟิ่นด้วยรถเมล์สาย 1062 หน้าห้าง Sogo เขียว

ครั้งนี้เลือกจะเดินทางด้วยรถไฟจากสถานี Taipei Main Station 

ไปซื้อตั๋วได้ที่ช่องขายตั๋วรถไฟ TRA
บอกพนง.ว่าจะไป "โฮวโต้ง" ออกเสียงให้ถูกนะ เราออกเสียงว่า หูโต้ง พนง.งงเลย

เราซื้อตั๋วเสร็จ 10.22 น. แต่รถไฟจะออก 10.25 น. 

ลุงขายตั๋วบอกวิ่งเลยหนู ไปที่เพลทฟอร์มหมายเลข 4 นะ เร็วเลย
นี่ก็วิ่งมั่วๆ ไป ดันไปถูกและทันเวลาพอดี 

ตั๋วราคา 56 NTD





























รถไฟจะวิ่งอยู่ใต้ดินจนกระทั่งพ้นตัวเมืองนั่นแหละ ถึงจะออกมาให้เราเห็นวิวด้านนอก

ถ้าคนเยอะ ก็ต้องยืนไปอย่างวันนี้ 1 ชม. จ้ะ






















































1 ชม. ผ่านไป เราจะมาถึงสถานี Ruifang ก็ต้องรอรถไฟสายผิงซี (Pinxi) ต่อไปที่โฮวโต้ง


รถไฟไปโฮวโต้งมี ชม. ละ 1 คัน พลาดแล้วรอกันนานเลยนะ 

แต่ถ้าไม่ทันจริงๆ ก็แท็กซี่เหอะ นั่งรถไฟไปแค่ 5 นาทีเองจากสถานี Ruifang

ถึง Houtong แล้ว




























ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านแมว ดังนั้นจะมีอะไรมากกว่าเจ้าแมวละ















และขนมเค้กไส้สับปะรดรูปแมว


ที่นี่มีแมวเยอะมาก 
แมวก็อินดี้แทบทุกตัว ไม่ได้สนใจคนขนาดนั้นหรอก

เว้นแต่เจ้าจะมีขนมไฮโซ เช่น อาหารเปียกมาล่อ
ส่วนอาหารเม็ด แมวถือว่าเป็นของเบๆ แมวไม่สนนะจ๊ะ

สำหรับที่นี่ แมวเลิฟเว่อร์คงชอบ แต่สำหรับคนธรรมดามันก็ไม่ได้น่าสนใจขนาดนั้น
ถ้าไม่ชอบแมวก็ตัดโปรแกรมนี้ไปก็ได้ หรือจะไปเที่ยวที่อื่นในรถไฟสายผิงซีก็น่าสนใจเหมือนกัน

เราได้เดินเล่นแค่รอบๆ สถานี ยังไม่ได้เดินเข้าไปในตัวหมู่บ้านก็กลับมาขึ้นรถไฟเพื่อกลับไปสถานี Ruifang เพราะเราจะเดินทางไปหมู่บ้านจิ่วเฟิ่นต่อ

อีกอย่างนึงที่กลับเร็วก็เพราะพอมาถึงที่หมู่บ้าน ฝนก็ตก
เป็นการตกที่แบบ เดี๋ยวตก เดี๋ยวหยุด เดี๋ยวลมแรง(มาก) เดี๋ยวฝนตกเม็ดใหญ่ ฝนตกเป็นฝอยๆ
เป็นการเดินเล่นที่ลำบากมาก เพราะตอนนั้นเสื้อกันลมก็ไม่ได้ซื้อ ร่มก็กางไม่ได้เพราะลมพัดมาแรงมาก

เลยตัดสินใจไปที่จิ่วเฟิ่นต่อเลยดีกว่า

พอไปถึงสถานี Ruifang ก็ข้ามถนนไปนั่งรถเมล์ฝั่งตรงข้ามไปจิ่วเฟิ่น
จำไม่ได้หรอกว่ารถสายไหน ถามคนขับว่า จิ่วเฟิ่น? ถ้าคนขับพยักหน้าก็ขึ้นได้เลย

จากสถานี Ruifang ไปจิ่วเฟิ่นไม่เกิน 10 นาที ถ้าขี้เกียจรอรถเมล์ ไปรถแท็กซี่ได้เช่นเดิมจ้ะ

พอไปถึงจิ่วเฟิ่น....
₪ ∂ ‡ 俞 ツ ❡ ❧ ҳ̸Ҳ̸ҳ ^ ╬ พูดไม่ออกเลยจ้า
ฝนตกหนักมาก และมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องกางร่มไป เดินไป งดถ่ายรูป กลัวกล้องพัง

คนก็เยอะ ได้กินอะไรนิดหน่อย 
อยากจะกินชา แต่ฝนตกหนักมากจนไม่มีอารมณ์กิน หนาวด้วย
เดินได้สักพักตัดสินใจกลับไทเปกันดีกว่า

ออกมารอรถที่ป้ายรถเมล์ (ป้ายรถเมล์กลับไทเปเดินเลย 7-11 ขึ้นไปบนเนินอีกหน่อย)
คนต่อแถวยาวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แต่เป็นระเบียบมาก ทั้งๆ ที่ฝนตกหนักมาก
คือขอชมเลย คนที่นี่เป็นระเบียบมาก ดีมาก สุดยอด แม้คนจะเยอะ แต่ทำให้แถวเคลื่อนไปได้เร็วมาก

พอย้อนคิดกลับมาบ้านเรา ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้มันต้องมีคนรุมกันขึ้น แย่งกันขึ้น วิ่งไปที่รถ 
ชุลมุนและอลม่าน
แต่นี่ทุกคนก็จะได้ขึ้น เรายืนรออยู่ราว 20 นาทีได้ แต่ก็ยินดีที่จะยืนรอแบบเป็นระเบียบแบบนี้นะ

ที่ตลกคือ เราไม่รู้หรอกว่าแถวนี้คือแถวต่อไปไทเปหรือเปล่า แต่เดาเอาว่าจะใช่ ก็ยืนต่อแถวไป
มีคนไทเปมาถามเราว่า แถวนี้ต่อไปไหน 
เราตอบว่าไม่รู้ 

เขาก็หัวเราะ แล้วบอกเราว่า เรามาต่อแถวทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะไปไหนนี่นะ
ฮ่าๆ เราก็ได้แต่บอกเขาไปว่า เราหวังว่านี่คือแถวไปไทเปนะ
แต่เขาก็ดันมาต่อแถวต่อจากเราโดยไม่ได้ไปถามคนข้างหน้าเสียด้วย
คือก็ไม่รู้ว่าใครบ้ากว่ากัน ณ จุดนั้น ฮ่าๆ

สุดท้าย แถวนี้ก็คือแถวไปไทเปจริงๆ นั่นแหละ
ลงป้ายสุดสายที่หน้าห้าง Sogo เขียว เลยไปเดินเล่นในห้างก่อนขึ้น MRT กลับ 


เจอร้านชีสเค้กมารุโกะ น่ารักมาก ข้าพเจ้าพุ่งตัวเข้าไปเลยค่ะ
จัดไปเลย 1 ก้อน


ราคาไม่แพง 199 NTD อยู่ชั้นเบเกอรี่ด้านล่างของโซโก้เขียว
อร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ความหอมของชีส และความนุ่มของเค้ก

กรี๊ด...เขียนแล้วก็อยากจะไปกินอีกรอบจริงๆ


นอกจากจะน่ารักแล้ว รสชาติยังดีอีก

ปิดท้ายบล็อกนี้ด้วยชีสเค้กมารุโกะ
ใครไปไต้หวัน อยากให้ไปอุดหนุนร้านนี้กันนะ