วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559

I o Tokyo i




นี่ควรจะเขียนอะไรเกี่ยวกับโตเกียวดี เป็นเมืองที่ถูกเขียนอย่างเจาะพรุนแล้วทุกอย่าง
แทบทุกเดือนต้องมีคนรู้จัก หรือไม่ก็คนรู้จักของคนรู้จักไปญี่ปุ่น
โดยเฉพาะ โตเกียว โอซาก้า น่าจะโดนคนไทยเจาะพรุนไปแล้วทุกที่

จองตั๋วไปโตเกียวช่วงหน้าร้อน เดินทาง 12-16 สิงหาคม 2559
มีคนบอกว่าญี่ปุ่นช่วงหน้าร้อน ร้อนมาก ร้อนยิ่งกว่าบ้านเราอีก
มีความร้อนอับชื้น เหงื่อไม่ออก อบอ้าว บลาๆ

พอไปจริง ก็เออ ร้อนนะ แต่ไหวอยู่ ไม่ได้อบอ้าวขนาดนั้น

แต่หลังจากวันที่ 16 สิงหา พายุเข้า 2 ลูกติดๆ กันเลยอ่ะ รถไฟ เที่ยวบินดีเลย์บ้าง หยุดบ้าง
คนที่มาเที่ยวหลังจากเราก็ซวยไปนะค้า

บินกับแอร์เอเชียได้ตั๋ว 8285.- บาท พร้อมน้ำหนักกระเป๋า 20 กก. และ 25 กก.
ถือว่าเป็นราคากลางๆ ที่รับได้สำหรับบินตรงและโลว์คอสอย่างแอร์เอเชีย
แต่อย่าลืมว่าบินตั้ง 6 ชั่วโมงและเบาะเครื่องบินเจ้านี้ปรับเอนได้นิดเดียว
การเพิ่มเงินเพื่อนั่งบิสสิเนสคลาสหรือจ่ายเพิ่มอีกไม่กี่พันเพื่อบินกับพวกฟลูเซอร์วิส แต่อาจต้องยอมเสียเวลาเปลี่ยนเครื่องนิดนึงก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ



เที่ยวบินขาออกของแอร์เอเชีย x ลงโตเกียวคือ 10 โมงเช้า ไปถึงนู่น 1 ทุ่มโดยประมาณ ก็เสียเวลาเที่ยวไป 1 วันเต็มๆ แต่ขากลับเครื่องออก 2 ทุ่มก็ถือว่ามีเวลาเที่ยวได้ถึงราวๆ 4 โมงเย็นของวันกลับ

ลงสนามบินนาริตะ พอถึงสนามบินซื้อตั๋ว Keisei Skyliner แบบไป-กลับก่อนเลย
เป็นการวางแผนว่าอย่างน้อยข้าก็มีตั๋วกลับสนามบินแล้วละนะ ดังนั้นจงใช้เงินได้ที่แลกมาได้อย่างเต็มที่

ช่วงนี้มีโปรโมชั่นคือซื้อตั๋ว Skyliner และบัตร Tokyo Subway ได้ในราคาพิเศษ (พิเศษแบบได้แถมบัตรเหมา Tokyo subway มาฟรีๆ นั่นแหละ)

2016.08.12 วันแม่แห่งชาติ แต่นี่มาแรดๆ อยู่โตเกียว
ลงเครื่อง 1 ทุ่มกว่าๆ กว่าจะเอากระเป๋า ซื้อตั๋วรถไฟ ก็มาถึงสถานี UENO ตอนราวๆ 2 ทุ่มครึ่ง
กินข้าวเอ้อระเหยกันก็ 3 ทุ่มครึ่งแล้ว

รอบนี้ไปเที่ยวกัน 3 คนแต่พักกัน 2 ที่ อีกคนแยกไปพักต่างหากแถวๆ อาซากุสะ
ไปส่งเพื่อนอีกคนก่อนแล้วค่อยมาสถานี  AKASAKA- MITSUKE
โรงแรมที่เราพักรอบนี้คือ APA VILLA HOTEL
ราคาสำหรับ 4 คืน คือ 38,500 เยน

ก่อนมาถึงโตเกียว โรงแรมเมล์มาหาบอกว่าจะเก็บห้องไว้ถึงแค่ 4 ทุ่มนะ นี่ก็ตอบกลับไปว่าคงถึงราวๆ นั้นแหละ ปรากฏว่าถึง 5 ทุ่มจ้า แต่โรงแรมก็ยังเก็บห้องไว้ให้อยู่

ความประทับใจแรกของโรงแรมนี้คือฟร้อนท์เป็นคุณลุงผู้ใจดีและชายหนุ่มหล่อหน้าตาดี  /ผิด
ฮ่าๆ ที่จริงคือใกล้สถานีรถไฟดีและอยู่สายเดียวกับสถานี UENO ที่ต้องต่อไปสนามบิน

หวยออกที่ห้อง 1019

ห้องพักมีความกะทัดรัดตามสไตล์ห้องพักในญี่ปุ่นเลย 
พอวางเตียงไปแล้วทางเดินในห้องก็แคบมาก กระเป๋าใช้เสร็จก็ต้องพักเก็บก่อนจะมาวางแผ่หลากินพื้นที่ไม่ได้เลย
เตียงก็เล็กไปหน่อย เตียงขนาดนี้เมืองไทยนอนคนเดียวนะจ้ะ คนตัวโตๆ 2 คนคงอัดกันไม่ไหว แต่เราเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ 2 คนไง เลยโอเค
พวกสิ่งของอำนวยความสะดวกในห้องน้ำมีพร้อมสรรพ โดยเฉพาะอ่างอาบน้ำ ที่ญี่ปุ่นนี่ถึงห้องพักจะแคบยังไงก็ต้องมีอ่างอาบน้ำนะฮะ ชอบตรงนี้
ชุดนอนก็มีให้พร้อม ดีจัง คราวหน้าจะได้ไม่ต้องพกชุดนอนมาด้วยเพิ่มเนื้อที่กระเป๋าได้อีกนิดนึง

แถวๆ ที่พักนี่ร้านอาหาร คลับ บาร์เพียบเลย
ที่แน่กว่าคือมีบาร์โฮสจ้า โฮสผู้ชายด้วยมีร้านแบบพี่กล้ามปูก็มี ร้านแบบชายหนุ่มสะอาดสะอ้าน ใส่สูทผูกเนคไทก็มี
คือโซนนี้นี่มันแหล่งเที่ยวหลังเลิกงานชัดๆ แต่กว่าเราจะกลับก็ 4-5 ทุ่มทุกวัน เลยไม่ได้แวะเข้าร้านไหนเลย อืม

2016.08.13
วันเที่ยววันแรก
จงเที่ยวอย่างทัวริส นั่นคือไปคว้าแลนด์มาร์กสำคัญๆ ของโตเกียวด้วยบัตร Tokyo Subway 72 ชม.

ถ้าเที่ยวเฉพาะในโตเกียวตั๋ว Tokyo Subway ตั๋วใบนี้ค่อนข้างครอบคลุมทั้งหมดนะ เพราะขึ้นได้ทั้ง metro และ subway ขายให้เฉพาะนักท่องเที่ยวด้วย หาซื้อตามสถานีทั่วไปไม่ได้ ต้องซื้อจากสนามบินหรือสถานีหลักๆ เท่านั้น

FYI: สำหรับมือใหม่ รถไฟในโตเกียวมีอยู่ยิบย่อยหลายสายมาก แต่หลักๆ มี 3 ยี่ห้อ คือ Tokyo Metro, Toei Subway และ JR ส่วนสายเอกชนยิบย่อยอย่างอื่น ส่วนใหญ่อยู่นอกเมืองหรือเป็นสายไม่ทัวริสนะฮะ ไม่ค่อยได้้ใช้


ย่านอาซากุสะ

ไม่มาที่นี่เหมือนมาไม่ถึงโตเกียวนะเธอ
แลนด์มาร์กสำคัญอย่างวัดเซนโซจิ (Senso-ji) บอกแบบนี้อาจจะงง คิดไม่ออกละสิ งั้นถ้าบอกว่าโคมแดงแห่งอาซากุสะล่ะ น่าจะร้องอ๋อกันนะ

แล้วยังมีตึกเบียร์อาซาอี โตเกียวสกายทรี แล้วก็ตึกไอ้นั่นสีทอง ที่ใครๆ ก็คิดว่ามันคืออุนโกะหรือลูกอ๊อด แต่ที่จริงมันคือเปลวไฟ แห่งความเร่าร้อนของอาซาฮีต่างหาก








Edo-Tokyo Museum

อันนี้เปิดดูจาก Tripadvisor แล้วเห็นว่าเรทติ้งดีมากเลยสนใจ มันใกล้ๆ กับย่านอาซากุสะด้วย จัดรวมมาเป็นทริปเดียวกันได้

ลงสถานี Ryokoku ตั๋วเข้าชมนิทรรศการถาวรราคา 600 เยน ช่วงที่ไปมีนิทรรศการผีด้วยแต่ต้องจ่ายเพิ่ม กลายเป็นบัตร 2000 เยน แต่ตกลงว่าแค่นิทรรศการถาวรนี่อย่างเดียวก็พอแล้ว แต่แค่นี้ก็ใช้เวลาเกือบๆ 3 ชม.นะ

สรุปว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ดีอ่ะ  เป็นการจัดแสดงโตเกียวในช่วงยุคเอโดะ (ประมาณปี ค.ศ.1603-1867)
จำลองบ้านเรือน วิถีชีวิตช่วงนั้น สถานที่สำคัญในยุคนั้นทำนองนี้ ดูง่าย เข้าใจง่าย เพลินๆ ดี
เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี
ไฮไลต์เลยคือสะพานนิฮงบาชิ (Nihonbashi Bridge)  ขนาดเท่าของจริง พอเราข้ามสะพานไปก็ย้อนสู่อดีตเลยจ้า






Tokyo Tower เก่าแต่เก๋า

ลงสถานี Onarimon เพื่อไปชมโตเกียวทาวเวอร์แลนด์มาร์กแต่เก่าแก่ของโตเกียว
แต่มุมเด็ดมุมหนึ่งคือถ่ายจากวัด Zojo-ji
แต่ว่าแอบพลาดนิดนึง เพราะมาตอนบ่ายคล้อย ค่อนไปทางเย็น มันเลยย้อนแสง

ในวัดมีคุณลุงขายน้ำแข็งไสและไอติม อร่อยดี แต่ราคาแอบเจ็บปวดเมื่อคิดเป็นเงินไทย








พอเที่ยวชมที่นี่เสร็จว่าจะไปศาลเจ้าเมจิต่อ แต่ว่าไม่ทันแล้วเพราะศาลเจ้าน่าจะปิดตอน 6 โมงก็เลยต้องเปลี่ยนเป็นหาอะไรกินแทน
มีการลงมติว่าจะกินไก่ทอด เพราะว่าช่วงเที่ยงไปซู้ดราเมนกันมาแล้ว ส่วนซูชิไว้ไปกินพรุ่งนี้
นี่มีเพื่อนคนนึงอยู่แถวๆ โตเกียวเลยชวนไปกินไก่ยามะจังที่ใกล้ๆ สถานี Awajicho ระหว่างทางแอบมีงอแงกันเล็กน้อยเพราะโมโหหิว แต่พอได้กินไก่ก็สดชื่น เอ้า คัมปาย---





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น