..(1) เรื่องมันมีอยู่ว่า
คติประจำใจคือ ปีนึงๆ เราต้องไปเยือนยังสถานที่ใหม่ๆ ที่เรายังไม่เคยไปบ้าง
..(2) เรื่องมันมีอยู่ว่า มือลั่น กดจองตั๋วไปปารีสด้วยความขาดสติ สตางค์ก็ขาดด้วย
คิดแต่ว่า
รูดบัตรก่อน เดี๋ยวหาจ่ายทีหลัง
สาเหตุที่มือลั่น
บินกับ Etihad ด้วย สายการบินนี้ก็รีวิวดีครึ่งไม่ดีครึ่ง มีทั้งคนชอบและคนด่า
นี่ก็ลังเลเอาไงดีหว่า แล้วอิราคานี้มันจะโผล่มาอีกมั้ยเนี่ย
โอเคแต่ราคานี้ต้องบินจาก KUL นะ (ช่วงนั้นมันมีโปรต้องไปขึ้นที่สิงคโปร์กับกัวลาฯ)
ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก
นี่ก็นั่งคิด-นอนคิดด้วย ตั๋วไปมาเลเดี๋ยวนี้อย่างมากก็ 2 พันละวะ บวกๆ รวมๆ แล้วก็ยังถูก งั้นจองไป
สรุปโดนตั๋วไปมาเลฯ 2 คนที่ 6,600 เพราะโดน จนท.ที่ TLScontactไซโคตอนไปขอวีซ่าว่า ถ้าไม่มีตั๋วออกจากไทยวีซ่าอาจไม่ผ่านนะ นี่ก็เลยจองไปวันนั้นเลยจ้ะ โปรฯ อะไรไม่ได้จองทั้งนั้น
ค่าตั๋วแอร์เอเชียโดนไป 4500 ค่าโหลดกระเป๋ากับของกินบนเครื่องอีกคนละพัน
เบ็ดเสร็จจ่ายสิริรวมค่าตั๋ว กรุงเทพ-ปารีส ตกคนละ 20,000 ต่อคน
อ้าว..มันก็เท่ากับบินตรงจากไทยเลยนี่หว่า
เอาน่า จ่ายทีละนิด ทีละหน่อยย่อมรู้สึกว่าถูกกว่าจ่ายตู้มเดียว จริงมั้ย..
จองเดือน 9/58
บินจริงเดือน 6/59 ระหว่างรอก็ออมเงินเก็บใส่กระปุกไป
พอเดือน 3/59 ก็เออ ต้องทำวีซ่าแล้วนี่หว่า
นี่ก็มีปัญหาอีกเพราะไม่ได้เป็นมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานประจำ มีร้านค้าแต่เงินเข้า-ออกบัญชีก็ช่างกระจ้อยร่อย ก็พยามยามส่งเอกสารเท่าที่มี
วีซ่าฝรั่งเศสต้องยื่นผ่านตัวแทน TLScontact พอส่งเอกสารเสร็จ ก็แบบว่า โอ๊ย..จะผ่านมั้ยนะ ถ้าไม่ผ่านจะเอาตังค์ที่เก็บมาทั้งหมดไปทุ่มให้ญี่ปุ่นหมดตัว ระหว่างนั้นก็หาตั๋วญีปุ่นรอเลย ถ้าวีซ่าไม่ผ่านนะแกร๊...
ระหว่างนั้นก็เลยไม่ได้หาข้อมูลอะไรเลย นอนรอวีซ่าอย่างเดียว
ผ่านไป 2 อาทิตย์ ที่มันนานเพราะมันติดหยุดช่วงสงกรานต์พอดี
วีซ่าผ่านจ้า
นี่ได้ 3 เดือน บองชูร์ปารีส แมร์ซีโบกู
มาอ่านเเล้ว จะตามต่อนะ 555
ตอบลบ