ปารีสไม่ได้ไปกันง่ายๆ เพราะเราต้องไปต่อเครื่องที่กัวลาฯ
ตอนแรกก็คิดว่าจะบินไปกัวลาฯ ตอนเช้า แล้วนั่งเครื่องบินไปปารีสตอนค่ำเลย
แต่ก็คิดว่าจะเหนื่อยไป เน่าด้วย
งั้นไปนอนกัวลาฯ 1 คืน ตอนเช้าๆ บ่ายๆ เที่ยวกัวลาฯ นิดนึงแล้วพอเย็นๆค่อยไปขึ้นเครื่องไปปารีส
พกเงินไป 500 มาเลเซียริงกิต สำหรับ 2 คน เหลือๆ เลย ใช้ไปแค่ 370 MYR
พักโรงแรมชื่อ Metro Hotel อยู่แถวๆ KL Sentral ลงรถมาลากกระเป๋ามั่วๆ มาก็ถึง
วันรุ่งขึ้นก็ตื่นสายๆ เช็คเอาท์ นั่งรถไฟฟ้าไปตึกแฝด Petronas ถ่ายรูปเช็คอิน ถือว่ามาถึงมาเลเซียละ
กลับจากตึกปิโตรนาสก็นั่งรถบัสจาก KL Sentral มาสนามบินเลย
รถบัสมันจะลงที่ KLIA2 แต่เราต้องไปขึ้นเครื่องที่ KLIA 1 ไง
แล้วอิ KLIA 1 นี่มันอยู่ที่ไหน
เปิดกูเกิ้ลค้นดูยิ่งสติแตก มีคนบอกว่ามันไกลกัน เดินไม่ได้หรอก
อ้าว..แล้วมันไกลขนาดไหนอ่ะแก
แล้วถ้ามันไกลกันแบบดอนเมือง - สุวรรณภูมิ จะไปทันรึแก
ตัดภาพไปที่ข้าพเจ้าที่กำลังสติแตกเดินไปหา information ของสนามบิน
เขาบอกว่าเรานั่งรถไฟ KLIA Transit ไประหว่าง 2 สนามบินนี้ได้ ราคาคนละ 3 ริงกิต
เครื่องออก 7.40 PM ไปถึงอาบูดาบี 11.00 PM สิริรวม 7 ชม.
ไม่ต้องไปสนเวลาออกกับเวลาถึงหรอก มันคือความต่างของเส้นเวลา
แต่พอถึงเวลาจริงๆ บินกับ Jet Airways ล่ะ
เครื่องเป็นของ Jet Airways แต่แอร์และของด้านในเป็นของ etihad ทั้งหมดเลย นี่ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าบินกับ Jet หรือ บินกับ etihad ดีเหมือนกัน
จองกับสายการบิน Etihad ก็ต้องไปต่อเครื่องที่ UAE นี่ก็ต้องไปเปิดกูเกิ้ลว่า UAE มันคือที่ไหน
ตกลงคือ อาบูดาบี นี่เอง
พอถึงสนามบินอาบูดาบีก็ต้องสแกนกระเป๋ากันอีกรอบ
รอบนี้คือแถวยาวมาก** ใส่ดอกจันทร์ไว้เยอะๆ เลย
ถ้าต้องต่อเครื่องที่นี่ควรเผื่อเวลาสัก 3 ชม. ขากลับเราเผื่อไว้ 2 ชม. ยังมาทันบอร์ดดิ้งแค่ 10 นาที
แล้วถ้าเครื่องตุ้บที่ 1 ดีเลย์นะแก ไม่อยากจะคิด
ตุ้บที่ 2 อาบูดาบี-ปารีส อีก 6 ชั่วโมง
รอบนี้ได้นั่งแถว 4 คนเลยไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่
แถมคนยังขึ้นเครื่องเต็มลำแบบแน่นเอี๊ยด จะย้ายไปไหนก็ไม่ได้
แอร์ยังลืมให้ผ้าห่มอีกผืน
snack box ก็ไม่ได้
แต่ตอนนั้นก็ง่วงๆ ก็ขี้เกียจทวง เพราะหลับตั้งแต่เครื่องยังไม่ออก ลืมตามาทีบางคนก็มีกล่องของว่างวางไว้ให้ล่ะ แล้วของเราล่ะ โธ่!
สรุปว่าบินขามากับ etihad ก็อยู่รอดปลอดภัยดี เป็นที่น่าพอใจ เว้นแต่ตุ้บ 2 ที่ออกจะไม่ชอบอยู่บ้างแต่ก็หลับมาอย่างเดียวอยู่ดีแหละ ตอนเช้าอาหาร เครื่องดื่มก็เสิร์ฟเป็นปกติดี
มาถึงปารีส 7.55 AM อากาศเย็น 16 องศา ซึ่งมาเลเซียกับบ้านเรานี่มันแตะๆ 35 องศาแล้ว
ป่วยตั้งแต่วันแรกเลยค่ะ
ด่านแรกต้องผ่าน ตม. นี่ก็สังเกตเห็นความต่างตั้งแต่อากาศจนถึงตม. กันเลยทีเดียว
ตม.ถามคำถามแรก "ข้างหลังนั่นแฟนใช่มั้ย งั้นเข้ามาพร้อมกันเลย"
ขากลับก็เหมือนกัน คือถ้ามาพร้อมกัน เข้าไปมุงพร้อมๆ กันได้เลย มา 4 คนก็ไปมุง ตม.ทีเดียว 4 คนนี่แหละ ส่วนบ้านเรามากี่คนก็ต้องเข้าไปทีละคน
ส่วนสแกนนิ้วมืออะไรไม่ต้องแล้ว เพราะเราถูกเก็บ Biometric ตั้งแต่วันทำวีซ่าแล้ว
ประทับตราเสร็จ ตม. ขยิบตาใส่แฟน 1 ที
เฮ้ย..วัฒนธรรมแบบนี้ไม่คุ้นเคย
บองชูว์จ้ะ ปารีส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น